Monday, November 19, 2012

สายฝน ลมหนาว และความเหงา


เย็นวันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2555 เวลาราวห้าโมงถึงหกโมงท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาราวกับฤดูฝน มีรถมอเตอร์ไซด์ของหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในเกสท์เฮ้าส์ของฉัน เนื้อตัวเธอเปียกปอนและคงจะหนาวสั่นไม่น้อย เธอถามว่ามีห้องพักว่างมั้ยฉันตอบว่าตอนนี้ทางเกสท์เฮ้าส์ของฉันจะปิดรับแขกชั่วคราวเพราะทางฉันจะต้องไปยื่นต่อไฟ 20 แอมป์ในวันพรุ่งนี้ เธอร้องขออ้อนวอนว่าเธอจะพักเพียงคืนเดียวแล้วพรุ่งนี้ก็จะเช็คเอ้าท์แล้ว ฉันตกลงและบอกราคาห้องพักไป เธอทำตกใจและต่อรองราคา สุดท้ายฉันก็ยอมแพ้เธอ

เธอเป็นหญิงสาวชาวจีนจากกวางโจว มาเที่ยวเชียงใหม่และปายเพียงลำพัง ขับมอเตอร์ไซด์จากอำเภอปายฝ่าสายฝนที่หลงฤดูมาตลอดทาง เธอบอกมีร้านขายยาอยู่แถวนี้บ้างไหม ฉันถามเธอว่าเป็นอะไรแล้วเธอก็ยกแขนและขาให้ดูว่าเธอเหมือนจะรู้สึกฟกช้ำจากการขับมอเตอร์ไซด์มาตลอดวันนี้ แม่ของฉันที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็รีบเอายาหม่องมาให้แล้วจากนั้นเราก็เริ่มพูดคุยด้วยกันอย่างสนิทใจ


ฉันพาเธอไปกินข้าวที่ร้านสาละวิน ผ่านถนนคนเดินที่เงียบกริบเพราะฝนเจ้าปัญหา ผ่านร้านอาหารและบาร์แห่งหนึ่งที่ดูโหรงเหรงลูกค้าไม่เยอะ เราเดินผ่านไปแล้วไปนั่งที่ร้านสาละวิน.....ร้านอาหารชื่อดังที่นักท่องเที่ยว (ฝรั่ง) รู้จักกันดี

ฉันก็เป็นแค่ใครคนหนึ่งที่ยังมีกิเลส ความเหงามันทำให้ฉันอยากมีเพื่อนไว้คอยพูดคุยด้วย แม่ฮ่องสอนเป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบเสียบางครั้งทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนต้องตัดเวลาเดินทางมาที่เมืองนี้เพื่อไปยังจุดหมายอื่นที่น่าค้นหามากยิ่งขึ้น

ฉันไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแต่ตลอดช่วงเวลาที่เรานั่งกินข้าว ฟังเพลงขับกล่อมเบา ๆ และเดินลัดเลาะผ่านริมหนองและวัดจองคำจองกลางจนมาถึงที่เกสท์เฮ้าส์ของฉันก็นับว่าชีวิตของฉันในวันนี้ ณ เมืองเล็กๆ อย่างแม่ฮ่องสอนมันดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

ยินดีที่ได้รู้จักนะ Tan Qing

19 พฤศจิกายน 2555
 23:21 น.

แดนดิน

No comments: