เชียงคาน – เลย – ภูเรือ – ลำปาง
กับความประทับใจที่ไม่มีวันลืม
เช้าวันสุดท้ายก่อนเดินทางออกจากเชียงคาน
ฉันตื่นแต่เช้าก่อนตีห้าครึ่งเพราะบอกกับน้องที่ประจำเกสท์เฮ้าส์ว่าจะใส่บาตรในตอนเช้า
ซึ่งทางเกสท์เฮ้าส์มีบริการจัดชุดใส่บาตรให้ ชุดละ 50 บาท หนึ่งชุดก็ประกอบไปด้วยข้าวเหนียวหนึ่งกระติ๊บและขนมขบเคี้ยวอีกประมาณ
8-9 ชิ้น ฉันรีบตื่นขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟัน
แล้วเปิดประตูออกไปสูดอากาศยามเช้าที่ใกล้สางตรงระเบียง แลเห็นสายน้ำโขงอยู่ลางๆ
ลมพัดโบกมาเบาๆ รู้สึกเย็นสดชื่นไม่น้อย...ฉันสูดอากาศเข้าเต็มปอด
นานแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่ได้สัมผัสอากาศดีๆ เช่นนี้...
ฉันรีบเดินมาตรงล็อบบี้ของเกสท์เฮ้าส์
เห็นเด็กหนุ่มคนนั้นกำลังตื่นและลุกขึ้นพับเก็บที่นอน เขาถามฉันว่าทำไมตื่นเช้าจัง
ฉันก็ตอบไปว่าอยากตื่นขึ้นมาสูดอากาศยามเช้าและกลัวจะไม่ทันใส่บาตรพระ...จากนั้นฉันก็เดินออกไปหน้าโรงแรม
ตรงถนนคนเดิน เห็นนักท่องเที่ยวบางส่วนและเจ้าของร้านและเกสท์เฮ้าส์แถวนั้นกำลังปูเสื่อบนพื้นถนนและมีจัดเตรียมข้าวปลาอาหารสำหรับใส่บาตรพระกันแล้ว
ระหว่างที่ยืนถ่ายรูปอยู่นั้นเด็กหนุ่มก็เอาเสื่อออกมาปูให้ฉันพร้อมด้วยชุดใส่บาตรตามที่ฉันแจ้งไว้แต่เมื่อคืน
ขณะกำลังจะนั่งลงบนเสื่อก็มีหญิงสาวปั่นจักรยานผ่านมาแล้วยื่นดอกไม้ให้ฉัน
บอกว่าชุดละสิบบาทเท่านั้น ฉันไม่ลังเลใจรับมาทันทีพร้อมยื่นเหรียญสิบให้หญิงสาวชาวบ้านคนนั้น
พอนางปั่นจากไปก็มีหญิงสูงวัยอีกคนปั่นจักรยานตรงมาที่ฉันแล้วก็หยุดกึกตรงหน้าพร้อมยื่นหมูปิ้งให้ฉันแล้วบอกว่า
10 ถุง 100 บาท ฉันอึ้งไปนิด
นี่ลงถ้าฉันซื้ออีกจะมีใครปั่นจักรยานมาขายอะไรให้ฉันอีก
แต่ด้วยความสงสารฉันก็รับมา 5
ถุงแล้วบอกไปว่าฉันมีขนมอยู่แล้ว จากนั้นก็หยิบแบ้งค์ 50 ยื่นให้หญิงสูงวัยคนนั้น ก่อนจากกันหญิงคนนั้นก็แนะนำฉันว่าเวลาหยิบ
(โจก) ข้าวเหนียวใส่บาตรพระอย่าบีบข้าวเหนียวให้หยิบขึ้นมาพอคำแล้วก็ใส่ลงไปในบาตรเลย
ฉันยิ้มรับพร้อมเอ่ยขอบคุณ นี่เป็นอีกเช้าที่ฉันสัมผัสถึงมิตรภาพของผู้คนในชนบท...การใส่บาตรเช้านี้ทำให้ฉันนึกถึงครั้นเดินทางไปหลวงพระบางเมื่อหลายปีก่อน
ครั้งนั้นเป็นประสบการณ์แรกที่ฉันได้ใส่บาตรในดินแดนอื่น
ผู้คนมากมายยืนเรียงรายสองข้างถนนและมีพระเณรเดินเป็นแถวเป็นแนวตามกันมา
ฉันรู้สึกอิ่มเอิบเบิกบานใจอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน...
หลังจากใส่บาตร
ฉันก็ปั่นจักรยานไปที่สวนสุขภาพเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้น เห็นหลายคนมาวิ่งออกกำลังกาย
ส่วนอีกฟากฝั่งหนึ่งของแม่น้ำโขงนั้น
ก็มีการเปิดเสียงตามสายแจ้งข่าวคราวความเป็นไปของสังคมในหมู่บ้าน
ลมเย็นพัดมาเรื่อยเอื่อย เรือชาวบ้านวิ่งไปตามผืนน้ำเป็นภาพที่ตราตรึงใจยิ่งนัก...เช้าวันนั้นก็มีรถสามล้อสะกายแล็บมารับฉันที่เกสท์เฮ้าส์เพื่อไปส่งที่ท่ารถของบริษัทฯ
หนึ่ง ฉันกำลังจะเดินทางต่อไปยังถนนคนเดินกาดกองต้า จังหวัดลำปาง
ตามที่หนุ่มติสท์แห่งร้าน Arts & Gallery คนนั้นแนะนำ...ฉันโบกมือลาเด็กหนุ่มประจำเกสท์เฮ้าส์พร้อมสัญญาว่าจะกลับมาเยี่ยมใหม่อีกครั้งในฤดูหนาวปีนี้....
ระหว่างเส้นทางสู่ลำปางหนาวจัง
ฉันนั่งรถมาลงที่ตัวอำเภอเมืองเลยเพื่อจะต่อรถไปยังลำปาง
แต่เมื่อมาถึงที่บขส. เลย ฉันก็ต้องหัวเสียเพราะไม่มีรถไปเชียงใหม่ในเช้าวันนี้
(ทางเกสท์เฮ้าส์บอกฉันว่ามีรถวิ่งไปเชียงใหม่ตอนสิบโมงเช้าซึ่งรถเที่ยวดังกล่าวจะแวะจอดที่ลำปางด้วย)
เมื่อการเดินทางไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ฉันจำใจนั่งรถไปลงที่พิษณุโลกแล้วต่อรถขึ้นไปที่ลำปางแทนและเช้าวันนั้นฉันก็ต้องยืนอยู่บนรถจนถึงภูเรือเพราะเป็นรถป. 2 ที่มีผู้โดยสารหนาแน่น หนทางจากเลยสู่ภูเรือนั้นเป็นถนนคดเคี้ยว
ขึ้นเขาลงเขา ไม่แพ้ถนนสายเชียงใหม่ – ปาย – แม่ฮ่องสอนเลยทีเดียว...ฉันพบว่าวิวทิวทัศน์ระหว่างสองข้างทางนั้นสวยงามยิ่งนัก
โดยเฉพาะที่ภูเรือจะมีสวนแปลงดอกไม้มากมาย สีสันของพันธุ์ไม้ช่างตราตรึงใจยิ่งนัก และเมื่อผ่านอำเภอด่านซ้ายก็มีการประดับประดาหน้ากากผีตาโขนตามบ้านเรือนและสำนักงานต่างๆ
เพื่อต้อนรับเทศกาลผีตาโขนที่จะจัดขึ้นในเดือนกรกฏาคมนี้ ซึ่งถ้าฉันมีเวลาพอในช่วงนั้นก็จะไม่พลาดที่จะมาสัมผัสงานประเพณีนี้อย่างแน่นอน
รถวิ่งมาถึงจังหวัดพิษณุโลกเมื่อเวลาบ่ายสองกว่า
รถจอดเทียบท่าที่บขส.ใหม่ซึ่งสวยงามอลังการไม่น้อยเลยทีเดียว
ฉันนั่งรถปอสองต่อไปลำปางและมาถึงเมืองรถม้าเมื่อเวลาเกือบสองทุ่ม จากนั้นก็นั่งรถสองแถวมาที่เกสท์เฮ้าส์แห่งหนึ่งย่านถนนคนเดิน
กาดกองต้า...เมื่อถึงที่พักก็รีบอาบน้ำแล้วเข้านอนด้วยความอ่อนล้า...
กาดกองต้า
ถนนคนเดินสุดคลาสิคแห่งเขลางค์นคร
เย็นวันนี้ฉันเดินสำรวจถนนคนเดินที่ลำปางซึ่งรู้จักกันดีว่า
กาดกองต้า
เสน่ห์ของถนนคนเดินที่นี่คือบ้านไม้สองชั้นในอดีตที่ยังหลงเหลือสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนอยู่บ้าง
แต่ที่ฉันประทับใจไม่น้อยไปกว่าความงดงามของเมืองลำปางคือหญิงสาวชาวเหนือที่ต้องยอมรับจากก้นบึ้งหัวใจเลยว่า
น่ารักไม่แพ้หญิงสาวที่ไหนในโลกนี้เลยทีเดียว...
คืนนี้นั่งฟังเพลงทอดอารมณ์อยู่ตรง Lobby ติดริมน้ำของเกสท์เฮ้าส์ พรุ่งนี้เช้า
ฉันก็ต้องออกเดินทางสู่เมืองสามหมอกอีกครั้ง...
แดนดิน
บันทึก ณ รีเวอร์ไซด์เกสท์เฮ้าส์ ย่านกาดกองต้า ลำปาง
No comments:
Post a Comment