Monday, May 20, 2013

เมืองสามหมอกในฤดูฝนโปรย



   ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ฉันยังคงหลงรักเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งทางภาคเหนือที่ฉันถนัดจะเรียกว่า เมืองสามหมอก หรือจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั่นเอง...

   หากเอ่ยถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอน ใครต่อใครก็มักจะนึกถึงอำเภอปาย เพราะชื่อเสียงของอำเภอปายนั้นกระฉ่อนไปทั่วหัวระแหงของแผ่นดินไทยและไม่เฉพาะภายในประเทศเท่านั้นแต่ดังไกลไปถึงต่างประเทศ ฉันจึงไม่แปลกใจนักเวลาที่ได้คุยกับใครก็ตามเกี่ยวกับแม่ฮ่องสอน ทุกคนก็จะเอ่ยถึงเมืองเล็กๆ นามว่า ปายมากกว่าอำเภออื่นๆ ในจังหวัดชายแดนแห่งนี้

   สำหรับฉันแล้วเมืองสามหมอกก็คือทุกอำเภอในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ไม่ว่าจะเป็นอำเภอปาย อำเภอเมือง อำเภอขุนยวม อำเภอแม่สะเรียง อำเภอแม่ลาน้อย อำเภอสบเมย และอำเภอปางมะผ้า ฉันว่าทุกเมืองที่เอ่ยถึงนี้ล้วนมีเสน่ห์เป็นของตัวเอง อย่างปายก็คือเมืองสำหรับหนุ่มสาวที่รักบรรยากาศชิลๆ ยามค่ำคืน ปางมะผ้า (มะผ้าเป็นคำท้องถิ่นแปลว่า มะนาว) ขึ้นชื่อเรื่องถ้ำ พวกฝรั่งเรียกอำเภอนี้ว่า สบป่อง สำหรับอำเภอเมืองนั้นก็มีเสน่ห์ของวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อก็คือ ปางอุ๋ง ฉันเรียกขานเสียใหม่ว่า ทะเลสาบแห่งเทพนิยาย ส่วนอำเภอขุนยวมนั้นเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการท่องเที่ยวเชิง Ecotourism หรือเชิงนิเวศน์ ฉันประทับใจ Homestay ที่หมู่บ้านต่อแพเพราะที่นี่รวบรวมวิถีชีวิตคนไทยใหญ่ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนไว้ได้มากที่สุด นักท่องเที่ยวที่มาพักที่นี่จะได้เรียนรู้ถึงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในแม่ฮ่องสอนได้อย่างเต็มที่ และอีกสามอำเภอที่เหลือได้แก่ อำเภอแม่สะเรียง อำเภอแม่ลาน้อย และอำเภอสบเมยนั้นก็มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นที่น่าไปเที่ยวค้นหาไม่แพ้ที่ไหน โดยเฉพาะที่ถ้ำแก้วโกมลซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นถ้ำที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในถ้ำผลึกแร่แคลไซต์ที่ค้นพบเพียง 3 แห่งทั่วโลก คือพบที่ประเทศจีน ประเทศออสเตรเลีย และประเทศไทย และอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญคือแม่น้ำสาละวินแม่น้ำสายที่ยาวเป็นอันดัลที่ 26 ของโลกและถือเป็นแม่น้ำนานาชาติที่ใหญ่และมีความสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากแม่น้ำโขง


   ในฤดุฝนที่ชอุ่มเขียว มีเม็ดฝนโปรยกลบความเหงา การได้มาท่องเที่ยวในเมืองเล็กๆ ที่ไหนสักแห่ง ในบรรยากาศที่ไม่วุ่นวายเหมือนเช่นฤดูหนาว ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการเดินทางที่น่าค้นหาและน่าสัมผัสไม่น้อย

แดนดิน
บันทึก ณ สามหมอกเกสท์เฮ้าส์, แม่ฮ่องสอน

No comments: