10 เมษายน 2552
สถานที่:
โรงอาหารแห่งวิทยาลัยนานาชาติแห่งหนึ่ง
ตัวละคร
: ชายหนุ่มนักศึกษาปี 4, เด็กสาวพยาบาลปี 2
จุดเริ่มต้นของคำว่ารัก
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยของผม
อีกไม่กี่วันก็จะเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์แล้ว นักศึกษาชั้นปีอื่นคงตื่นเต้นดีใจไม่น้อยที่จะได้เตรียมตัวกลับบ้านหรือไปท่องเที่ยวกัน
แต่สำหรับผมและนักศึกษาปีสี่อีกหลายคนกำลังวุ่นวายกับการเตรียมตัวสอบ
การเคลียร์งานทั้งหมดที่ค้างคาและการออกหางานอันแสนวุ่นวายใจ ผมถือกล้องดิจิตอลคอมแพ็คตัวโปรดกำลังเก็บภาพอยู่ภายในโรงอาหารของวิทยาลัย
ระหว่างที่ถ่ายรูปอยู่นั้น ผมบังเอิญกวาดสายตาไปเห็นเด็กสาวน่ารักคนหนึ่งกำลังนั่งทานอาหารอยู่ตรงโต๊ะตรงข้าม
สี่ซ้าห้าปีของการใช้ชีวิตนักศึกษาอยู่ ณ วิทยาลัยหลังเขาแห่งนี้ ผมไม่เคยเผลอใจสักนิดที่จะไปหลงรักใครเมื่อแรกพบเห็น
ความรู้สึกของผม ณ เวลานั้นคือจะทำยังไงให้ได้รู้จักเธอคนนี้
ผมหยิบกล้องขึ้นตั้งฉากในระดับสายตา ปรับซูมมุมเล่นส์ กดชัตเตอร์ค้างไว้เพื่อปรับแสงให้พอดีกับใบหน้านวลของเธอก่อนกดแชะไปสองสามรูป
เธอหันมามองผมด้วยแววตาสงสัย
แต่ผมแสร้งหันไปถ่ายรูปมุมอื่นอย่างเขินอายเล็กน้อย....
18 เมษายน 2552
สถานที่:
ล็อบบี้เลานจ์หอชายหนึ่ง
ตัวละคร:
ชายหนุ่มนักศึกษาปี 4, เด็กหนุ่มนักศึกษาปี 2
ความในใจที่เปิดเผย
“รูปของพี่ใบนั้นผมให้น้องเค้าไปแล้วนะ
น้องเค้าชื่อ....(วงเล็บไว้ในฐานที่เข้าใจ) ดูเหมือนเค้าจะชอบรูปที่พี่ถ่ายให้นะ”
เด็กหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ
นั่งลงตรงโซฟาหน้าทีวีพร้อมเปิดร้อยยิ้มกว้างและรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับน้องคนที่ผมถ่ายรูปไว้ที่โรงอาหารทันที
หลังจากถ่ายรูปใบนั้นแล้ว ผมรีบไปปริ๊นท์ที่ห้องสมุดของมหา’ลัย
ผมบอกกับพี่ที่ปริ๊นท์ให้ว่าผมของเป็นรูปขาวดำนะเพราะมันสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ
พี่แกก็โปรยยิ้มบนใบหน้าแล้วเอ่ยแซวผมในที่สุด
“มีเบอร์น้องเค้ามั้ย”
“มีครับ
นี่ครับพี่”
เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นแฟนกับเพื่อนน้องคนที่ผมกำลังแอบรัก
เมื่อได้เบอร์มาผมก็รีบโทรหาเธอทันที.....แล้วเมื่อเวลาผ่านไปเราก็รู้จักกันมากขึ้น....จนเริ่มสนิทใจกัน
17
พฤษภาคม 2552
สถานที่ : สแตนด์เชียร์ตรงสนามฟุตบอลของวิทยาลัย
ตรงข้ามตึกสโมสรนักศึกษา
ตัวละคร: ชายหนุ่มนักศึกษาปี 4, เด็กสาวพยาบาลปี 2
ความรักที่แตกหน่อ
ภายใต้ท้องฟ้าที่ดารดาษด้วยหมู่ดาวพราวแสง
ลมเย็นพัดพลิ้วผ่านมาระลอกแล้วระลอกเล่า ทำให้รู้สึกเย็นสบายเป็นที่สุด
หลังจากรับปริญญาผ่านไปแล้วผมก็ตัดสินใจไปทำงานที่กรุงเทพฯ
ภายหลังเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปเก็บไว้ที่หอพักใหม่เรียบร้อย
ผมก็รีบจับรถตู้ตะบึงสู่วิทยาลัยแห่งนี้ทันที และในค่ำคืนนี้ผมก็ได้มานั่งคุยกับเด็กสาวยพราวยิ้มในรูปภาพใบนั้นแล้ว....เรานั่งคุยกันอยู่ตรงสแตนด์เชียร์ฝั่งตรงข้ามตึกสโมสรนักศึกษาจนถึงตีสองก่อนที่จะพากันกลับเข้าหอพักด้วยความสดใสร่าเริง
กลางปี
พ.ศ. 2552 – มิถุนายน
2555
ความสดใสในวันวาน
ความสดใสในวันวาน
สถานที่ : ทะเล
ขุนเขา ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารฟาสฟู๊ด ลานเบียร์ ร้านกาแฟ รถไฟฟ้าบีทีเอส
รถไฟฟ้าใต้ดิน แอร์พอร์ตลิงค์ สนามบินสุวรรณภูมิ โรงหนัง ร้านหนังสือ
ร้านเครื่องสำอาง ซูเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ
ตัวละคร:
ชายหนุ่มวัยทำงาน, เด็กสาวพยาบาล – พยาบาล ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
นับจากเวลานั้นมา
ความสัมพันธ์ของผมกับเด็กสาวพยาบาลคนนั้นก็แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เราแบ็คแพคไปท่องเที่ยวทะเลและภูเขา
สัมผัสกลิ่นแดด ไอฝน และความชุ่มฉ่ำของน้ำค้างในฤดูหนาว ช็อปปิ้ง อิ่มอร่อยไปกับอาหารรสเด็ด
เพลิดเพิลนไปกับการดูหนัง หัวเราะคิกคักบนรถไฟฟ้า และอบอุ่นไปกับร้านกาแฟสุดโปรดและค่ำคืนวันปีใหม่ที่งดงามไปด้วยแสงไฟตลอดเส้นถนน
ผมสัญญากับเธอว่าถ้าวันไหนยังมีเธออยุ่ ณ เมืองนี้ ผมจะไม่ไปไหน
แต่ถ้าวันไหนแล้วผมไม่มีเธออยู่ด้วย ผมก็จะเดินทางออกจากเมืองนี้ไปอย่างไม่ลังเลใจ
ผมรักเธอจนผมต้องนอนร้องให้ในค่ำคืนที่ต้องอยู่เพียงลำพัง....
กรฏาคม
พ.ศ. 2555
จุดเริ่มต้นของความเหงา
จุดเริ่มต้นของความเหงา
สถานที่
: ห้องสี่เหลื่ยมในอพาร์ทเม้นย่านพระโขนง
ตัวละคร:
ชายหนุ่มวัยทำงาน
สองอาทิตย์แล้วที่เราดูห่างเหินกันไปมาก
ยิ่งเมื่อวานกับวันนี้แล้วยิ่งทำให้ผมกระวนกระวายใจเป็นที่สุด ผมสับสน ฟุ้งซ่าน
กินไม่ได้ นอนไม่หลับ และโมโหง่าย
ผมติดต่อเธอไม่ได้ เธอเงียบหายไป สายฝนที่โปรยลงมาคือเม็ดฝนหรือหยาดน้ำตา
มันเต็มใบหน้า และหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียงนอนอันยับยู่ยี่
เมื่อติดต่อเธอได้และได้ยินคำว่า “ห่างกันสักพัก” มันทำให้ผมเห็นโลกใบนี้หยุดหมุน
ไม่มีคลื่นเสียงใดๆ ผ่านเข้ามาในโสตประสาทของผม เหมือนโลกใบนี้ได้ดับสูญสิ้นไปแล้ว
เมื่อก่อนโลกยังเป็นสีขาว
เต็มไปด้วยสายหมอกแห่งความฝัน
ระเรี่ยผ่านตัว สูดไอหมอกแห่งความฝันเข้าเต็มปอด
ทุกอย่างเต็มไปด้วยจินตนาการ
เมื่อก่อนโลกเต็มไปด้วยสีชมพู
ฉันเกลือกกลิ้งลงสนามหญ้าสีชมพู
นอนแผ่หราแหงนหน้ามองดูฟ้า
ฟ้า..ก็เป็นสีชมพู
กระซิบบอกสายลม
กระซิบบอกรอบๆ ตัวเอง
ด้วยใจที่อิ่มเอิบและเป็นสุข
เมื่อก่อนโลกรายล้อมด้วยสีเขียว
ทุกอณูบนโลกเป็นสีเขียว
หอมกลิ่นดิน และดอกหญ้า
สูดโอโซนอย่างสดชื่น
ครั้งแล้วครั้งเล่า
วันนี้เมฆฝนปิดบังมัว
ดูสลัวขุ่นข้องใจ
ความฝันที่คิดไว้
สลายไปกับสายลม
เต็มไปด้วยสายหมอกแห่งความฝัน
ระเรี่ยผ่านตัว สูดไอหมอกแห่งความฝันเข้าเต็มปอ
ทุกอย่างเต็มไปด้วยจินตนาการ
เมื่อก่อนโลกเต็มไปด้วยสีชมพู
ฉันเกลือกกลิ้งลงสนามหญ้าสีชมพู
นอนแผ่หราแหงนหน้ามองดูฟ้า
ฟ้า..ก็เป็นสีชมพู
กระซิบบอกสายลม
กระซิบบอกรอบๆ ตัวเอง
ด้วยใจที่อิ่มเอิบและเป็นสุข
เมื่อก่อนโลกรายล้อมด้วยสีเขียว
ทุกอณูบนโลกเป็นสีเขียว
หอมกลิ่นดิน และดอกหญ้า
สูดโอโซนอย่างสดชื่น
ครั้งแล้วครั้งเล่า
วันนี้เมฆฝนปิดบังมัว
ดูสลัวขุ่นข้องใจ
ความฝันที่คิดไว้
สลายไปกับสายลม
สิ่งที่ยากกว่า
การ "นับหนึ่งใหม่" คือ.. ทำอย่างไร ??.. ให้ "ลืมสิ่งที่เคยนับมา"